เอสซีจีให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิต โดยเฉพาะในช่วงปลายอายุการใช้งาน เพื่อมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค โดยบูรณาการแนวคิดด้านความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ (climate resilience), เศรษฐกิจหมุนเวียน (circularity) และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ไว้ในกลยุทธ์หลัก พร้อมทั้งพัฒนาคุณค่าของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องผ่านการวิจัยและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

🔄 แนวทางการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์

  • เอสซีจีดำเนินการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment: LCA) เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการกำจัดเมื่อสิ้นสุดการใช้งาน
  • เอสซีจี เคมิคอลล์ (SCGC) ได้พัฒนาระบบบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน GHS เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งานผลิตภัณฑ์ในห่วงโซ่อุปทานเป็นไปอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ
  • มีการฝึกอบรมพนักงานและสื่อสารกับลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานและการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม

🌱 การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เอสซีจี ส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจผ่านการรับรองผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ฉลากต่าง ๆ ได้แก่:

  • โครงการ SCG Green Choice
  • ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลาก Carbon Footprint of Circular Economy (CE-CFP) จำนวน 107 รายการ
  • ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลาก Carbon Footprint Reduction (CFR) จำนวน 140 รายการ
  • ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลาก Carbon Footprint จำนวน 606 รายการ
  • ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลาก Green Label จำนวน 32 รายการ
  • ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Efficiency) จำนวน 6 รายการ

🚀 นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน

เอสซีจี เคมิคอลล์ (SCGC)  มุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและวัสดุที่ยั่งยืนผ่านเป้าหมายที่ชัดเจนและความร่วมมือระดับโลก:

  • ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 700,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายในปี 2030
  • ตั้งเป้านำพลาสติกใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต 500,000 ตันต่อปี ภายในปี 2030
  • ร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติในการพัฒนาเทคโนโลยี ได้แก่:
    • เทคโนโลยี Waste-to-Material: ร่วมทุนกับ Braskem (บราซิล) เพื่อผลิต Bio-Polyethylene
    • เทคโนโลยี Waste-to-Product: ร่วมมือกับ Avantium (เนเธอร์แลนด์) เพื่อพัฒนาพลาสติกที่มีคาร์บอนเชิงลบจากการแปรรูป CO₂

ความริเริ่มเหล่านี้สะท้อนถึงพันธกิจของเอสซีจี ในการเปลี่ยนของเสียให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ส่งเสริมหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน และผลักดันนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

🎯 เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เอสซีจี ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการขยายผลกระทบของผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม:

  • ภายในปี 2573:
    • รายได้สองในสาม (66.7%) มาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันภายใต้ SCG Green Choice
    • รายได้หนึ่งในสาม (33.3%) มาจากผลิตภัณฑ์ SCG Green Choice ที่ให้ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรงแก่ลูกค้า
  • ในปี 2567:
    • เอสซีจี มีรายได้จากผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชัน SCG Green Choice คิดเป็น 53.9%
    • รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ให้ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรงแก่ลูกค้าอยู่ที่ 12.7%

📦 การตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความตระหนักในเรื่องวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภค ได้ผลักดันให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เอสซีจี จึงมุ่งยกระดับกระบวนการผลิตเพื่อให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนผู้ใช้งานในภาคอุตสาหกรรมให้สามารถผลิตสินค้าที่มีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศได้มากยิ่งขึ้น

🏭 ธุรกิจ🌍 การลดการปล่อย GHG🔄 การลดการใช้ทรัพยากร
ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างผลิตภัณฑ์ Tiger Décor, Marble Render และ Easy-Mix Formula สามารถลดการปล่อย CO₂ ในกระบวนการผลิตได้อย่างน้อย 300 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าเมื่อเทียบกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 1ท่อคอนกรีต SCG Fly Ash Pipe Concrete ผลิตจากเถ้าลอยรีไซเคิล 3.46% โดยน้ำหนัก โดยยังคงความแข็งแรงและอายุการใช้งาน ผลิตโดยโรงงานของเอสซีจี ในประเทศอินโดนีเซีย
เอสซีจี เคมิคอลล์ (SCGC)เม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีนคอมพาวด์ GSV90BL และ GSV65BL ใช้แทนอะลูมิเนียมในการผลิตบันไดภายในรถยนต์ มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และทนแรงกระแทกสูง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้สูงสุดถึง 60% เมื่อเทียบกับการผลิตแบบเดิมที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมEcoClear-PP สารช่วยเพิ่มความใสสำหรับผลิตภัณฑ์โพลีโพรพิลีน ช่วยส่งเสริมการใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็นวัสดุทดแทนในการผลิตได้อย่างน้อย 20% โดยไม่กระทบต่อความใสของผลิตภัณฑ์ และได้รับการรับรองความปลอดภัยสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร
เอสซีจีพี (SCGP)กระดาษ Glassine ผลิตด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานในการผลิตได้อย่างน้อย 2% ต่อตัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างน้อย 8 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าถาดบรรจุอาหาร Fest Fresh Pak เพิ่มการใช้วัสดุหมุนเวียนได้สูงถึง 80% โดยน้ำหนัก เมื่อเทียบกับถาดโพลีโพรพิลีน พร้อมทั้งยังคงความแข็งแรงและคุณสมบัติในการรักษาความสดของอาหารตามความต้องการของลูกค้า

🌟 กรณีตัวอย่างความสำเร็จ5,983 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
โรงงานผลิตกระดาษลูกฟูกของเอสซีจีพี (SCGP) ได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในกระบวนการผลิตในอัตรารวม 15% ส่งผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 5,983 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี