สิทธิมนุษยชน

การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน
เอสซีจี มีอุดมการณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรมและยึดหลักอุดมการณ์ 4 เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยกำหนดเรื่องสิทธิมนุษยชนและแรงงานไว้ในจรรยาบรรณเอสซีจีตั้งแต่ปี 2530 และมีการทบทวนให้เป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สะท้อนให้เห็นถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ครอบคลุมทุกกิจกรรมทางธุรกิจของเอสซีจี (Direct Activity) รวมถึงกิจกรรมของคู่ค้า คู่ธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่า (Supplier/ Contractor in Business Value Chain) และผู้ร่วมธุรกิจ (Joint Venture) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เอสซีจีตระหนักและให้ความสำคัญต่อการดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องจะได้รับการปฏิบัติและดูแลอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) หลักการชี้แนะเรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับธุรกิจแห่งสหประชาชาติ (UNGP) ปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในจรรยาบรรณเอสซีจี เรื่องสิทธิมนุษยชนและแรงงาน หน้า 13 และจรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี
เป้าหมาย
เป็นองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งทางตรงจากการดำเนินงานในกิจกรรมทางธุรกิจของเอสซีจี และทางอ้อมโดยการสนับสนุนและส่งเสริมคู่ธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ และกิจการร่วมทุน ให้ตระหนัก คุ้มครองและเคารพต่อสิทธิมนุษยชนในการดำเนินธุรกิจ
- จำนวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นศูนย์
- สัดส่วนพนักงานหญิงในระดับจัดการเป็น 27% ในปี 2568
- จำนวนพนักงานผ่านการอบรมและทดสอบด้านสิทธิมนุษยชนผ่าน Ethics e-Testing 100%
กลยุทธ์
- บูรณาการการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน การบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคลให้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ ตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งในและต่างประเทศ
- เสริมสร้างคุณค่า พัฒนา และต่อยอดโครงการการมีส่วนร่วมที่ยึดหลักการเคารพสิทธิมนุษยชน ให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตลอดห่วงโซ่คุณค่า และสังคมโดยรวม
- พนักงาน: การเคารพสิทธิเป็นหลักพื้นฐาน และยกระดับการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างในองค์กร
- คู่ธุรกิจ: มุ่งเน้นการลดความเสี่ยงในการละเมิด และยกระดับคุณภาพชีวิตในสภาพแวดล้อมการทำงาน ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านแรงงาน สุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดี
- คู่ค้า: ยกระดับกระบวนการจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่คุณค่า
- ชุมชน: สร้างการมีส่วนร่วมโดยยึดหลักการเคารพในสิทธิพื้นฐาน และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี
- ลูกค้า: ส่งมอบสินค้า บริการ และโซลูชันที่มีคุณภาพ ความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐาน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี
การบริหารจัดการ
- ประกาศและทบทวนนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน นโยบายด้านการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคลที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลว่าด้วยข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) ปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และข้อกำหนดสากลอื่นๆ และขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติผ่านคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี
- กำหนดกรอบการบริหารความเสี่ยงเป็นแนวทางเดียวกันทั่วทั้งองค์กร และดำเนินกระบวนการจัดการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence Process) โดยเน้นการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ผลการดำเนินงานปี 2564
- จำนวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนเท่ากับศูนย์
- สัดส่วนพนักงานหญิงต่อพนักงานทั้งหมดเท่ากับ 22.4% โดยมีพนักงานจัดการที่เป็นหญิงคิดเป็น 24.8%
- 100% พนักงานผ่านการอบรมและทดสอบด้านสิทธิมนุษยชนผ่าน Ethics e-Testing
- ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการในประเทศตามกฎหมาย 31 คน และส่งเสริมให้ประกอบอาชีพ
ผลการดำเนินงานด้านความหลากหลายของพนักงาน
- สัดส่วนพนักงานหญิงต่อพนักงานทั้งหมด 22.4%
- สัดส่วนพนักงานหญิงในระดับจัดการ 24.8%
- สัดส่วนพนักงานหญิงในระดับจัดการระดับต้น 26.6%
- สัดส่วนพนักงานหญิงในระดับจัดการระดับสูง 12.9%
- สัดส่วนพนักงานหญิงในระดับจัดการในหน่วยงานที่สร้างรายได้ 18.3%
- สัดส่วนพนักงานหญิงในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี 26.3%
กระบวนการการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน
เอสซีจีดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน ตามหลักการชี้แนะด้านสิทธิมนุษยชนกับธุรกิจ (United Nations Framework and Guiding Principles on Business and Human Rights) หรือ UNGP โดยยึดหลักการ 3 ด้าน ได้แก่
- การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Protect) โดยปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนดของภาครัฐ หรือหลักสากลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนและปฏิบัติตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights: UDHR) ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UNGC) หลักการชี้แนะเรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับธุรกิจแห่งสหประชาชาติ (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGP) และปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (The International Labor Organization Declaration on Fundamental Principles and Rights at Work: ILO) รวมถึงมุ่งมั่นในการดำเนินการตามจรรยาบรรณ และนโยบายว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนต่างๆ ที่บริษัทประกาศใช้
- การเคารพสิทธิมนุษยชน (Respect) ยึดหลักอุดมการณ์ 4 เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจและกำหนดเรื่องสิทธิมนุษยชนและแรงงานไว้ในจรรยาบรรณเอสซีจีตั้งแต่ปี 2530 และกำกับดูแลผ่านนโยบายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม และสื่อสารไปยังบุคลากรทั่วทั้งองค์กร รวมถึงบริษัทคู่ธุรกิจ คู่ค้า และบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ดังนี้
- นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ที่แสดงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานให้ครอบคลุมความเสี่ยงในอุตสาหกรรมและประเทศที่เกี่ยวข้อง (Country/ Industry specific issues)
- นโยบายด้านการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล
- นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- Expectation letter ในการผลักดัน และส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนร่วมกับบริษัทร่วมทุน บริษัทคู่ธุรกิจ คู่ค้า
โดยนโยบายต่างๆ ดังกล่าวได้มีการขยายขอบเขตการดูแลไปถึงคู่ธุรกิจผ่านจรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี (SCG Supplier Code of Conduct) และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มผ่านนโยบายและแนวปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Engagement Policy) ในการผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยการขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี นอกจากนี้ ในปี 2564 คณะทำงาน Human Rights and Stakeholders Engagement ได้จัดทำกรอบการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมจัดทำแนวปฏิบัติการจัดการสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence Process Guideline) ตามกรอบการบริหารความเสี่ยงของเอสซีจี ที่มีการระบุและประเมินความเสี่ยงผลกระทบทางลบด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจริง (Actual) และที่น่าจะเกิดขึ้นได้ (Potential) ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานในเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมที่ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ดังรูป



ในปี 2564 ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเมินความเสี่ยงอยู่ในระดับสูง มี 3 ประเด็นคือ ความปลอดภัยในสถานที่ปฏิบัติงานและจากการขนส่ง การแพร่ระบาดของโควิด 19 และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งเอสซีจี ได้กำหนดมาตรการลดและควบคุมความเสี่ยง และให้ความสำคัญในการติดตามประสิทธิผลของมาตรดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ดังตัวอย่างที่เปิดเผยในรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2564 (หน้า 136-138)
- Remedy: มีช่องทางให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มสามารถร้องเรียน และแจ้งเบาะแสการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามหลักบรรษัทภิบาล คู่มือจรรยาบรรณ ระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายและนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน รวมถึงการกระทำทุจริต โดยจัดการกับข้อร้องเรียนอย่างมีประสิทธิผล และการกำหนดมาตรการบรรเทาแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นธรรม ผ่านระบบรับข้อร้องเรียน (https://whistleblowing.scg.com) โดยข้อร้องเรียนที่ได้รับจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงและสอบสวน เพื่อสรุปความผิด อนุมัติการลงโทษและกำหนดมาตรการเยียวยาผลกระทบต่อไป

รางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2564 (Human Rights Awards)
เอสซีจีได้รับรางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2564 ระดับดีเด่น ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นปีที่ 2 โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
เข้าร่วมเป็นสมาชิก The Sedex Members Ethical Trade Audit (SEDEX)
ตั้้งแต่ปี 2562 บริษัทในกลุ่ม SCGP ได้ดำเนินการตามมาตรฐานของ SEDEX ในการปฏิบัติต่อพนักงานและแรงงานอย่างมีจริยธรรมทั้งระบบ ไม่เพียงแค่เฉพาะภายในบริษัทฯ หากแต่มองรวมไปถึงตลอดห่วงโซ่คุุณค่า ในปี 2564 บริษัทได้ดำเนินการตามข้อกำหนด SEDEX และผ่านการตรวจประเมินจากผู้ตรวจประเมินภายนอกจนได้รับการยอมรับให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ SEDEX รวมทั้งหมด 11 บริษัท ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของเอสซีจีในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนมาอย่างต่อเนื่อง ตามระบบการบริหารจัดการอย่างมีจริยธรรมต่อพนักงานและแรงงานตามข้อกำหนดของ SEDEX ใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ มาตรฐานแรงงาน สุขภาพและความปลอดภัย จริยธรรมทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมทั้้งภายในบริษัทของตนเองและคู่ธุรกิจ
การบริหารความหลากหลาย
เอสซีจีมุ่งมั่นในการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล โดยผนวกเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมทั่วทั้งองค์กร และบูรณาการเข้ากับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างเหมาะสม ในปี 2563 เอสซีจีได้ประกาศนโยบายด้านการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล และมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
- เอสซีจีบริหารความเท่าเทียมและความเป็นธรรมของพนักงานที่มีความหลากหลายในทุกที่ที่ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ รวมถึงคู่ค้าและกิจการร่วมทุน โดยการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน
- เอสซีจีปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียม ให้ความเคารพในความหลากหลายและยอมรับในความแตกต่างของบุคคลทั่วทั้งองค์กร ปฏิบัติต่อกันด้วยความไว้วางใจ บริหารงานด้วยความโปร่งใสและยึดมั่นต่ออุดมการณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โดยให้ความสำคัญกับความหลากหลายของพนักงานในทุกด้าน เช่น กำหนดแนวคิดในการเพิ่มสัดส่วนเพศหญิงในพนักงานระดับผู้บริหาร การดูแลพนักงานที่เป็น Mid-career การส่งเสริมให้ริเริ่มธุรกิจใหม่ (Start-up Model) สำหรับคนรุ่นใหม่ รวมถึงพัฒนานโยบายในการเปิดรับกลุ่ม LGBTQI+
- เอสซีจีเคารพในความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล ไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อเพศ อายุ สภาพร่างกาย ความทุพพลภาพ สัญชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และความหลากหลายของพนักงานอื่นใดที่นอกเหนือไปจากการปฏิบัติตามกฎหมาย
- การบริหารทรัพยากรบุคคลของ SCG ในด้านการจ้างงาน ค่าตอบแทน การพัฒนาความรู้ ความสามารถ การเลื่อนตำแหน่ง การโอนย้ายและการว่าจ้างพนักงานที่มีประสบการณ์ในการทำงาน การฝึกอบรมและการให้คำแนะนำ เป็นต้น ได้ยึดหลักความเป็นธรรมและความเสมอภาค เช่น การว่าจ้างคนพิการและสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ส่งเสริมให้พนักงานหญิงมีความเท่าเทียมในการเติบโตของสายงาน ตลอดจนการได้รับสวัสดิการและค่าตอบแทนต่างๆ
- เอสซีจีมีความคิดริเริ่มและดำเนินการเพื่อสนับสนุนความหลากหลายของพนักงาน เช่น ขยายโครงการพัฒนาความรู้ ความสามารถให้กับพนักงานในต่างประเทศ โดยให้โอกาสในการเรียนรู้และเข้าร่วมหลักสูตรสำคัญ (Flagship Programs) เช่น Business Concept Development (BCD), Management Development Program (MDP) นอกจากนี้ คณะกรรมการบุคคลของเอสซีจี (Management Development Committee) กำหนดให้มี “คณะทำงานพัฒนาพนักงานจัดการหญิง” เพื่อสนับสนุนและดูแลให้บรรลุเป้าหมายสัดส่วนพนักงานผู้หญิงในระดับจัดการเป็น 27% ในปี 2568
- จัดงาน Broadcast Live ใน Theme: Woman in leadership inspiration talk เพื่อให้เกิดความตระหนักในเรื่องของการไม่เลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด (ทั้งการล่วงละเมิดทางเพศและการล่วงละเมิดในรูปแบบอื่นใด) และสร้างแรงจูงใจของพนักงานทั่วทั้งองค์กร ให้เห็นคุณค่าของความหลากหลายของพนักงาน


- จัดงาน Broadcast Live ใน Theme: Woman in leadership inspiration talk เพื่อให้เกิดความตระหนักและสร้างแรงจูงใจของพนักงานทั่วทั้งองค์กร ให้เห็นคุณค่าของความหลากหลายของพนักงาน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน 2564 ข้อมูลการดำเนินงานด้านพนักงานและการพัฒนาสังคม
โครงการการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนในปี 2564

พนักงาน
มีการสื่อสารความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน (Basic knowledge) ให้พนักงานทุกระดับมีความรู้ ความเข้าใจและเกิดความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น ผ่านหลายช่องทาง เช่น E-Mail, One page, Signage, VDO เป็นต้น



นอกจากนี้ ในวันที่ 8 มีนาคม 2565 มีการจัด Broadcast Live ในหัวข้อ SCG Women in Leadership Inspiration Talk เพื่อให้เกิดความตระหนักในเรื่องของการไม่เลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด (ทั้งการล่วงละเมิดทางเพศและการล่วงละเมิดในรูปแบบอื่นใด) สร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานหญิงที่มีความสามารถ และสร้างแรงจูงใจของพนักงานทั่วทั้งองค์กร ให้เห็นคุณค่าของความหลากหลายของพนักงาน


และได้มีการจัดตั้ง Private group ใน Facebook เพื่อใช้เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้พี่สาว น้องสาวและเพื่อนสาวชาวเอสซีจี มาล้อมวงนั่งคุยกันอย่างสบายใจ ให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ ส่งมอบพลังบวกและก้าวต่อไปอย่างมั่นใจร่วมกัน

คู่ค้า คู่ธุรกิจ
เอสซีจีจัดซื้อจัดจ้างคู่ธุรกิจที่มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ มีความเป็นมืออาชีพในการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ โดยวางแผนพัฒนาคู่ธุรกิจให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของคู่ธุรกิจ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
- มีการตรวจประเมินความเสี่ยงและให้การรับรองคู่ธุรกิจทุกรายเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยใช้กรอบการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กรและดำเนินการตาม “กรอบการดำเนินงานด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน เอสซีจี” ซึ่งครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG)

- 100% คู่ธุรกิจที่มีมูลค่าการจัดหามากกว่า 1 ล้านบาทผ่านการประเมินด้านความยั่งยืน (ESG Risk)
- 93% คู่ธุรกิจตามมูลค่าการจัดหาแสดงความมุ่งมั่นปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ธุรกิจของเอสซีจี
- 100% คู่ธุรกิจขนส่งประจำผ่านการรับรอง
- จัดทำแผนพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของคู่ธุรกิจด้านความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เช่น Contractor Safety Management
ผู้ร่วมธุรกิจ
เอสซีจีมุ่งหวังและส่งเสริมให้ผู้ร่วมธุรกิจ (Joint Ventures) ที่เอสซีจีไม่มีอำนาจในการบริหาร เช่น บริษัทร่วมและบริษัทที่เอสซีจีร่วมลงทุน รวมถึงคู่ค้า (Suppliers) คู่ธุรกิจ (Contractors) และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ สนับสนุนและเน้นย้ำถึงความสำคัญของความมุ่งมั่นต่อสิทธิมนุษยชน โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
- ทบทวน Expectation letter และสื่อสารไปยังบริษัทผู้ร่วมธุรกิจ (Joint Ventures) เพื่อส่งเสริมและทำความเข้าใจร่วมกันถึงการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนที่เอสซีจีคาดหวัง

- จัดทำแบบสอบถามด้านสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุมทั้งการปฏิบัติตามนโยบาย การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนและผลการดำเนินงานที่สำคัญเป็นประจำทุกปี เพื่อทราบถึงสถานะการดำเนินงานในปัจจุบันและวางแผนร่วมกันในการให้การสนับสนุนการดำเนินงานจากเอสซีจี
- 100% ผู้ร่วมธุรกิจ* ประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
หมายเหตุ: * หมายถึง ผู้ร่วมธุรกิจที่เอสซีจีถือหุ้น ≥ 10%
ชุมชน
เอสซีจีถือเป็นความรับผิดชอบขององค์กรในการสร้างธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนธุรกิจด้วย ESG โดยพัฒนาแนวทาง ESG 4 Plus “มุ่ง Net Zero-Go Green-Lean เหลื่อมล้ำ-ย้ำร่วมมือ” ภายใต้ความเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้วยการมุ่งเน้นจัดการปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพและคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยการมีส่วนร่วมช่วยเหลือเสริมทักษะ สร้างอาชีพ อันจะนำมาสู่การสร้างรายได้ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสำคัญในสังคมให้ได้อย่างยั่งยืน
ลดเหลื่อมล้ำด้วยพลังชุมชน
ความเหลื่อมล้ำและความยากจนเป็นปัญหาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในสังคมไทย ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่ยังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของผู้คนจำนวนมาก
เอสซีจีลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนด้วยโครงการ “พลังชุมชน” อบรมเสริมความรู้คู่คุณธรรม สร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนลุกขึ้นมาพัฒนาตนเอง ต่อยอดแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นสินค้าประจำจังหวัด เรียนรู้หลักการตลาด การค้าขาย การสร้างแบรนด์สินค้า และขยายช่องทางการขายผ่านออนไลน์ รวมถึงการวางแผนชีวิตเพื่อความยั่งยืน

“พลังชุมชน” อบรมให้ความรู้ชุมชนแล้วกว่า 400 ราย ใน 13 จังหวัด คือ ลำปาง กาญจนบุรี สระบุรี นครศรีธรรมราช เชียงราย แพร่ อุบลราชธานี อุดรธานี บุรีรัมย์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ลำพูน และตาก ชุมชนหยัดยืนได้ สร้างรายได้แต่ละรายเดือนละเป็นหมื่นถึงหลักแสน และจะยังขยายต่อเพราะความเหลื่อมล้ำ ยากจนยังคงมีอยู่ในอีกหลายพื้นที่

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน ลดเหลื่อมล้ำด้วยพลังชุมชน หน้า 77
การสร้างอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาด
ให้ความรู้ เสริมทักษะ สร้างอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างชุมชนเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนทั้งในไทยและอาเซียน โดยพัฒนาอาชีพแล้วกว่า 3,000 คน ตั้งเป้าเป็น 20,000 คน ภายในปี 2568 เช่น อาชีพพนักงานขับรถบรรทุก อาชีพช่างปรับปรุงบ้าน อาชีพแปรรูปผลิตภัณฑ์และขายสินค้าออนไลน์และออฟไลน์ อาชีพผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ นักบริบาลผู้สูงอายุ รวมถึงให้ความรู้ด้านบริหารจัดการน้ำในชุมชนเพื่อให้มีน้ำอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร เพิ่มผลผลิต มีรายได้มั่นคง นอกจากนี้ เอสซีจียังมอบทุนการศึกษาอาชีพที่ขาดแคลนให้เยาวชนในอาเซียน เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร ครู


เอกสาร DOWNLOAD
SCG Human Rights Expectation Letter
นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน
นโยบายด้านการบริหารความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของบุคคล
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
SCG Human Rights Due Diligence
การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนเอสซีจี
ประกาศเจตนารมณ์ “ การส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ
จรรยาบรรณเอสซีจี
จรรยาบรรณคู่ธุรกิจเอสซีจี
WBCSD CEO Guide to Human Rights 2020